EMA สามารถใช้หาสัญญาณซื้อขายได้หลากหลายวิธี แต่ในตัวอย่างนี้เราจะใช้เส้น EMA 2 เส้นในการหาสัญญาณในการซื้อขาย ด้วยการใช้ EMA(20) เส้นสีเขียว, EMA(50) เส้นสีแดง
หากเส้นสีเขียวหรือ EMA(20) ตัดเส้นสีแดงหรือ EMA(50) ขึ้น ให้เทรดเดอร์ทำการเปิดออร์เดอร์ Buy
หากเส้นสีเขียวหรือ EMA(20) ตัดเส้นสีแดงหรือ EMA(50) ลง ให้เทรดเดอร์ทำการเปิดออร์เดอร์ Sell
เราจะไม่ใช้ EMA ในสภาวะตลาดที่อยู่ในแนวโน้ม Sideway เป็นสัญญาณ ซื้อขาย Forex เนื่องจากว่าตลาดที่อยู่ในแนวโน้ม Sideway มักจะมีสัญญาณหลอกบ่อยครั้ง เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้
จากภาพเห็นได้ว่าเส้น EMA ตัดกันบ่อย จนเป็นสัญญาณเข้าซื้อแบบมั่วไปหมด เมื่อเจอสภาวะตลาดแนวโน้ม Sideway ทางที่ดีเทรดเดอร์ควรใช้สัญญาณการซื้อขายจาก Stochastic จะได้ผลดีมากกว่า
กลับมาที่การใช้ EMA ทำกำไรในตลาด Forex ของเรา วิธีที่ผมบอกไปคือใช้เส้น EMA 2 เส้นในการหาสัญญาณในการซื้อขาย ด้วยการใช้ EMA(20) เส้นสีเขียว, EMA(50) เส้นสีแดง แต่ผมมีวิธีที่ชัวร์กว่านั้นคือเพิ่ม EMA เข้ามาอีก 1 เส้นคือ EMA(100) เส้นสีเหลือง เทคนิคการทำกำไรคือ เส้นทั้ง 3 เส้นนี้ต้องเรียงกันถึงจะเปิดออร์เดอร์ได้
ให้เทรดเดอร์ทำการเปิดออร์เดอร์ Buy หากเส้นสีเขียวอยู่ข้างบน เส้นสีแดงอยู่กลาง และเส้นสีเหลืองอยู่ล่างสุด (หากไม่เรียงตามนี้ห้ามเปิดออร์เดอร์เด็ดขาด)
การใช้ EMA 3 เส้นค่อนข้างจะได้สัญญาณที่ชัวร์กว่าการใช้ EMA เพียงแค่ 2 เส้น เพราะจะทำให้เจอสัญญาณน้อยกว่า เนื่องจากต้องรอยืนยันความชัวร์จากสัญญาณ EMA ถึง 3 สั้นเรียงกันถึงจะซื้อขายได้ แต่ก็ได้สัญญาณซื้อขายที่ช้ากว่า EMA แบบ 2 เส้น แต่ผมเชื่อว่าช้าแต่ชัวร์ก็ย่อมดีกว่า
ให้เทรดเดอร์ทำการเปิดออร์เดอร์ Sell หากเส้นสีเหลืองอยู่ข้างบน เส้นสีแดงอยู่กลาง และเส้นสีเขียวอยู่ล่างสุด (หากไม่เรียงตามนี้ห้ามเปิดออร์เดอร์เด็ดขาด)
การใช้ EMA 3 เส้นค่อนข้างจะได้สัญญาณที่ชัวร์กว่าการใช้ EMA เพียงแค่ 2 เส้น เพราะจะทำให้เจอสัญญาณน้อยกว่า เนื่องจากต้องรอยืนยันความชัวร์จากสัญญาณ EMA ถึง 3 สั้นเรียงกันถึงจะซื้อขายได้ แต่ก็ได้สัญญาณซื้อขายที่ช้ากว่า EMA แบบ 2 เส้น แต่ผมเชื่อว่าช้าแต่ชัวร์ก็ย่อมดีกว่า
