ทุกตลาดมีหลักเกณฑ์ในการกำหนดทิศทางของตนเอง มีสี่ปัจจัยหลักที่คุณต้องปฏิบัติตามเพื่อให้สามารถการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้

1. รายได้ของบริษัท

ไม่แปลกใจเลยที่จำนวนเงินที่บริษัทได้รับมีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท รายได้เป็นผลกำไรของบริษัท กำไรนี้จะเป็นตัวกำหนดสุขภาพทางการเงินของมัน

วิธีติดตาม ในสหรัฐอเมริกา แต่ละบริษัทต้องมีการประกาศรายงานผลประกอบการรายไตรมาสสู่สาธารณะตามกฏหมาย

วิธีการซื้อขาย ก่อนที่บริษัทจะประกาศผลประกอบการ, นักวิเคราะห์จะคาดการณ์ผลประกอบการณ์, การคาดการณ์ทั้งหมดจะถูกรวบรวมโดย บริษัทวิจัยต่างๆในรูปแบบของประมาณการรายได้ที่เป็นเอกฉันท์, จากนั้นให้ตรวจสอบตัวเลขจากประมาณการแล้วติดตามตัวเลขจริง หากข้อมูลที่แท้จริงมีประสิทธิภาพดีกว่าที่คาดการณ์จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น แต่หากผลประกอบการออกมาไม่ดีราคาหุ้นจะตกลง

2. ปัญหาภายใน

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือปัญหาภายใน ปัญหาและความไม่มั่นคงของบริษัทจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท การเปลี่ยน CEO, การอภิปราย และความเห็นของสมาชิกของบริษัท การควบรวมและการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นจะสร้างความผันผวนสูงใหกับหุ้น

ลองพิจารณาตัวอย่าง คุณจำ Elon Musk ทวีตว่าเขาต้องการที่จะซื้อ Tesla มาเป็นของตัวเองที่ราคา $420? หลังจากทวีตดังกล่าวราคาหุ้นของ Tesla ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แล้ว NASDAQ ก็ระงับหุ้นของ Tesla ที่ตลกที่สุดคือมันเป็นเพียงข้อความใน Twitter แต่มันกลับเขย่าตลาดได้เป็นอย่างมาก

อุปสงค์และอุปทาน (S/D) อาจนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาภายใน

ไม่ว่าทั้งเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์จะวิเคราะห์ตลาดใดก็ตามพวกจะพิจารณาปัจจัยของ S/D อยู่เสมอ หากบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนจะเป็นการกระตุ้นให้ราคาหุ้นอาจเพิ่มขึ้น หากบริษัทมีการเสนอขายหุ้นออกราคาหุ้นอาจลดลง

วิธีติดตาม ตรวจสอบข่าวที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีหุ้นที่คุณต้องการซื้อขาย

วิธีซื้อขาย ประเมิณผลกระทบของข่าว, รอการตอบสนองของตลาด และติดตามอารมณ์ของตลาด

3. ข่าวอุตสาหกรรม

ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมภายในของบริษัทเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท แต่ยังมีปัจจัยภายนอกอีกด้วย ข่าวที่เฉพาะเจาะจงกับบางภาคส่วนอาจมีผลเป็นอย่างมากต่อหุ้นของบริษัท นั่นเป็นเหตุผลที่เทรดเดอร์ต้องตรวจสอบข่าวอุตสาหกรรมด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อขายหุ้น Facebook คุณควรตรวจสอบข่าวในภาคเทคโนโลยี

วิธีการติดตาม ตรวจสอบข่าวที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนที่คุณเลือกวิธีการเทรด

ค้นหาว่าข่าวนั้นสำคัญหรือไม่ และผลกระทบใดที่อาจเกิดกับบริษัท เปิดออเดอร์ตามอารมณ์ของตลาด

4. การให้เรทติ้งของนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์จะพิจารณาหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น จากนั้นพวกเขาจะให้คำแนะนำว่าควรจะซื้อ, ขาย หรือถือหุ้นต่อ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ซื้อหุ้นจริงๆ แต่ข้อเสนอแนะดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายความแตกต่างของราคาได้เนื่องจากคุณสามารถจับอารมณ์ของตลาดได้

 

บทความก่อนหน้านี้ทำไมคุณควรลงทุนในตลาดหุ้น
บทความถัดไปPMI คืออะไร ? ทำไมถึงความสำคัญกับตลาด Forex ?